เว็บไซต์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์
หากคุณกด “Accept” หรือใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อ ถือว่าคุณยินยอมให้มีการใช้งานคุกกี้
ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว นโยบายการใช้คุกกี้

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิตรุ่นที่ 17

หมวดหมู่ข่าว: ข่าวเด่น ข่าวประชาสัมพันธ์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  พระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิตรุ่นที่ 17 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 2,571 คน (จากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมด 2,816 เป็นต่างชาติจำนวน 105 คน) ปีนี้มีบัณฑิตแพทยศาสตร์รุ่นแรก สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) -  รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ เข้ารับพระราชทานปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์, การพัฒนาระหว่างประเทศ ตามลำดับ 

.

เมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2561 ณ หอประชุมสมเด็จย่า เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ทั้งระดับบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต จำนวน 2,571 คน (จากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมด 2,816 เป็นต่างชาติจำนวน 105 คน)  จากสำนักวิชานิติศาสตร์, วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง, วิทยาศาสตร์สุขภาพ, พยาบาลศาสตร์, นวัตกรรมสังคม, จีนวิทยา, การแพทย์บูรณาการ, ศิลปศาสตร์, การจัดการ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, อุตสาหกรรมเกษตร และปีนี้เป็นปีแรกที่แพทยศาสตร์มีบัณฑิตเป็นรุ่นแรก จำนวน 32 คน พร้อมก้าวสู่การเป็นแพทย์ทำงานใกล้ชิดชุมชน

.

ในการนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ เนื่องจากเป็นผู้มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในการอุทิศตนเพื่อกิจการของพระพุทธศาสนา ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความรู้ มีคุณธรรม และเป็นผู้ทุ่มเทเสียสละในการใช้ความรู้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของสังคมมาโดยตลอด เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในระดับประเทศและนานาประเทศ ด้วยผลงานต่างๆ ที่ได้กระทำมาล้วนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ตลอดจนมีศีลาจารวัตรอันดีงามที่สามารถยึดเป็นแบบอย่างของสังคมได้ พึงได้รับการยกย่องให้เป็นบรรทัดฐานเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นเจริญรอยตาม

.

และ รองศาสตราจารย์ ดร.วันชัย  ศิริชนะ เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาระหว่างประเทศ ด้วยเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการการอุดมศึกษาของประเทศไทยแล้ว และเป็นนักบริหารที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นผู้ที่เสียสละและทุ่มเท ในการพัฒนาการศึกษาของประเทศเข้าสู่การศึกษาในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบุกเบิก ริเริ่ม ก่อตั้งและพัฒนามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ก่อให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกับสถาบันในต่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ด้วยความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของรองศาสตราจารย์ ดร.วันชัย  ศิริชนะ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในความรู้ความเชี่ยวชาญในการเป็นนักบริหารการศึกษาระดับสูง และเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการการอุดมศึกษาระดับนานาชาติ ได้ริเริ่มโครงการทางด้านการศึกษาที่เชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาระหว่างประเทศในด้านต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา ด้านการแพทย์ การสาธารณสุขและการส่งเสริมสุขภาพ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและระดับนานาชาติ ด้วยผลงานต่างๆ ที่ได้กระทำมา ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จึงสมควรได้รับการยกย่องเพื่อเป็นเกียรติประวัติและแบบอย่างในวงวิชาการและวิชาชีพให้ผู้อื่นเจริญรอยตาม

.

ในโอกาสนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทความว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ.

.

บัณฑิตทั้งหลายได้ศึกษาเล่าเรียนมาในสาขาวิชาต่าง ๆ ย่อมมีความรู้ความสามารถและทักษะความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน. การรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่า ตนมีความรู้ ความสามารถและความถนัดในด้านใด มากน้อยเพียงใดนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้คนเราสามารถนำศักยภาพที่มีอยู่ ไปใช้ได้ถูกต้องกับงานหรือกิจการต่าง ๆ ที่ทำ เพื่อให้งานนั้นสำเร็จผลเป็นประโยชน์สูงสุดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้รู้จักขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ฝึกฝนความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติ และเพิ่มพูนประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ และความชำนาญจัดเจน ที่ยิ่งสูงขึ้น กว้างขวางขึ้น เป็นประโยชน์ต่องานยิ่ง ๆ ขึ้นไป. การรู้จักตนเองดังที่กล่าว เป็นคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งส่งเสริมให้บุคคลมีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าและผาสุกมั่นคงอย่างเท้จริงได้. บัณฑิตทุกคนจึงควรพิจารณาให้รู้จักตนเองตามเป็นจริง จะได้สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตน แก่สังคม และแก่ประเทศชาติได้สืบไป.

.

ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคน และผู้มาร่วมในพิธีนี้ทุกท่าน  ประสบความสุขสวัสดี พร้อมทั้งความเจริญรุ่งเรืองโดยทั่วกัน”

 

  • 7741 ครั้ง