มฟล. จัดพิธีปัจฉิมนิเทศ อธิการบดีย้ำชัด ลูกแม่ฟ้าหลวงต้อง 'เก่ง-ดี-มีอัตลักษณ์'

หมวดหมู่ข่าว: ข่าวเด่น

        มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดย ส่วนพัฒนานักศึกษา จัด กิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ประจำปีการศึกษา 2560 ให้แก่นักศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาในปีนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561 ณ หอประชุมสมเด็จย่า เริ่มจากพิธีฮ้องขวัญโดยพ่อครูชูชาติ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามแบบประเพณีล้านนา จากนั้น รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี ขึ้นกล่าวให้โอวาทแก่เหล่าว่าที่บัณฑิตเพื่อให้ข้อคิดเตรียมความพร้อมก่อนออกไปสู่โลกแห่งการทำงาน จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัวสู่พิธีพระราชทานปริญญาบัตร รวมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อและสร้างแรงบันดาลใจก่อนออกไปปฏิบัติงานอยู่ในสถานประกอบการต่างๆ

         รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี กล่าวให้โอวาท มีความตอนหนึ่งว่า “เรามาพบกันอีกครั้งตามสัญญา หลังจากที่พวกเราทุกคนมานั่งอยู่ในห้องนี้ครั้งแรก ตอนที่มามอบตัว วันนี้คำสัญญาเป็นจริงแล้ว ในวันที่พวกเธอทั้งหลายกำลังจะสำเร็จการศึกษา ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นล้วนเป็นวันเวลาแห่งความทรงจำ วันแห่งความสำเร็จที่มาถึงนี้ได้มาด้วยความวิริยะ ได้มาด้วยความพากเพียร  ผ่านทั้งความท้อแท้ ความยินดีปรีดา ความสมหวัง มีหลากหลายความรู้สึกตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาสู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ จนถึงวันนี้ วันที่พวกเธอทั้งหลายจะได้จดจำอีกวันหนึ่ง”

        “การที่เราจะจบการศึกษาไป มันมีความรู้สึกอย่างแรกคือ เราเก่ง เราชนะ เราทำได้ ความรู้สึกที่สอง คือ เราได้ทำตามความต้องการของพ่อแม่ ทำให้ครอบครัวได้ดีใจ แล้วเส้นทางต่อจากนี้จะทำอย่างไรให้ชีวิตคุ้มค่า นำไปสู่ความเจริญก้าวหน้า บางคนฝันว่าจะไปทำงานที่นั่นที่นี่ บางคนว่าจะไปเรียนต่อ บางคนฝันว่าจะไปประกอบธุรกิจของตัวเอง ฝันแล้วต้องทำให้ได้ ความคิดความฝันตอนที่เรียนจบใหม่ๆ นั้นอาจเป็นอย่างหนึ่ง แต่หลังจากไปเจอสภาพจริงของชีวิตแล้วมันสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจก็คือ บัณฑิตจากแม่ฟ้าหลวง ชีวิตจะหักเหแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีทุกคน เพราะพื้นฐานที่ได้จากมหาวิทยาลัยเป็นพื้นฐานที่ดี”

      อธิการบดี กล่าวว่า แม่ฟ้าหลวงมีความแตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่เหล่านักศึกษาจะได้สัมผัสตั้งแต่วันแรกเข้า ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความมีศักดิ์ศรี ประเพณีปฏิบัติ การจัดการศึกษาที่มีความเข้มงวด ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความมีวัฒนธรรมเฉพาะตัว ทำให้มีอัตลักษณ์ของความเป็น “ลูกแม่ฟ้าหลวง”

       “สิ่งที่มหาวิทยาลัยปลูกฝังให้พวกเธอมาตลอด มี 4 ประการ อย่างที่ 1 ที่ครูย้ำชัดมาตลอดก็คือ ความเป็นคนดี ต้องอยู่ในจิตสำนึก ฝังอยู่ในจิตใจว่า เราจะเป็นคนดีเพราะเราเป็นลูกสมเด็จย่า สมเด็จย่ามีความปรารถนาอย่างเดียว คือ ขอให้คนในบ้านเมืองนี้เป็นคนดี ดีโดยไม่ต้องมีใครสั่ง สิ่งที่ 2 เราปลูกฝังในเรื่องของการเรียน ให้พวกเธอเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะพบเจอความยากความง่ายอย่างไรก็ตามแต่ พวกเธอทุกคนก็มาถึงวันนี้ สิ่งที่เธอได้รับจากความเข้มงวดกวดขันก็คือ มีวิชาความรู้ติดตัว ทำให้พวกเธอมั่นใจไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็ตามเธอก็สามารถทำได้ สิ่งที่ 3 ที่ตามมาจากความเข้มงวดก็คือ นิสัยเอาจริงเอาจัง ไม่ละไม่เลิก ไม่ทิ้งง่ายๆ ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคใด สิ่งเหล่านี้ปลูกฝังอยู่ในนิสัยของพวกเธอ คือ เป็นคนดี มีความรู้ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค”

       และสิ่งที่ 4 ที่ปลูกฝังไว้ก็คือ อัตลักษณ์ความเป็นลูกแม่ฟ้าหลวง

       “เป้าหมายของมหาวิทยาลัย คือ อยากสร้างอัตลักษณ์สำคัญให้แก่เด็กแม่ฟ้าหลวง วันนี้พวกเธอจบออกไปด้วยความรู้สึกอย่างแรก คือ พวกเธอมีรุ่นพี่รุ่นน้อง มีรุ่นพี่จบออกไปมากมาย จะเห็นสรรพคุณว่าเมื่อเธออยากทำงานที่ไหน เธอก็จะมองหาว่ามีรุ่นพี่เราอยู่ไหม พวกรุ่นพี่ก็คอยมองหาว่าเมื่อไรรุ่นน้องจะมา เป็นความรู้สึกผูกพันของความเป็นพี่น้องแม่ฟ้าหลวง การที่เรามีพี่น้องอยู่ในทุกที่เป็นสิ่งที่ดีงามหรือไม่ แต่สำหรับเราถือเป็นเรื่องดีว่าเรามีความรักใคร่กลมเกลียวกัน”

        “อีกอันคือ ความมีระเบียบวินัย เวลาเด็กแม่ฟ้าหลวงไปทำงานที่ต่างๆ  มักได้รับคำชื่นชมจากผู้ประกอบการว่า เด็กของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักพี่รู้จักน้อง มีความเคารพต่อระเบียบวินัยของที่ทำงาน การเคารพกฎเกณฑ์ของที่ทำงานั้นเป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการเขาปรารถนา ไม่มีบริษัทไหนที่มีความรู้สึกว่าเด็กที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์เป็นที่ต้องการ มีใครอยากได้บ้างคนที่ไม่มีระเบียบวินัย แต่เด็กแม่ฟ้าหลวงถูกหล่อหลอมมาให้เป็นเด็กที่มีระเบียบวินัย เด็กแบบนี้ไปอยู่ที่ไหนใครก็รัก อ่อนน้อมมากไปก็ดูเป็นคนอ่อนแอ ไม่อ่อนน้อมก็เป็นคนแข็งกระด้าง ก็เอาแต่พอสมควร”

     “สามคือ การเคารพในวัฒนธรรมประเพณี ทั้งของที่ทำงานนั้นๆ และที่ๆ เราเข้าไปอยู่ เขามีวัฒนธรรมอย่างไร เขามีประเพณีอย่างไร เราต้องปรับตัวไปตามนั้น เราสร้างให้เด็กแม่ฟ้าหลวงทำงานได้ในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม”

     “ประการที่สี่ คือ ความสามัคคี เด็กแม่ฟ้าหลวงคือคนที่มีความสามัคคี เด็กแม่ฟ้าหลวงเป็นคนซื่อตรง มองในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราปลูกฝังให้ ทั้งการเคารพกฎเกณฑ์ มีระเบียบวินัย สามัคคี”

      “สุดท้ายคือ ความมีน้ำใจ คนที่มีน้ำใจไปที่ไหนใครก็รัก ไม่ต้องไปให้พระที่ไหนเจิมหน้า น้ำใจแสดงออกยังไง ให้นึกถึงคำว่า sense of service คือใจพร้อมที่จะบริการ พร้อมที่จะช่วย ถ้าเรามีใจบริการเราช่วยโดยที่ไม่รอให้ใครเอ่ยขอ”

      “5 คำจำให้มั่น เคารพผู้อาวุโส เคารพในระเบียบ เคารพในประเพณีวัฒนธรรม สามัคคี มีน้ำใจ สิ่งเหล่านี้คืออัตลักษณ์ที่มหาวิทยาลัยสร้างและหล่อหลอมให้พวกเธอเป็น ให้เป็นคนดี ให้เป็นคนเก่ง ให้อัตลักษณ์ที่เป็นคุณแก่การดำรงชีวิต ถ้ามีสิ่งเหล่านี้ติดตัวไป ก็เหมือนมีอาวุธประจำกาย พวกไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ไปที่ไหนใครก็รู้ว่านี่คือ ลูกแม่ฟ้าหลวง” อธิการบดี กล่าว

  • 11317 ครั้ง
  • #อธิการบดี #นักศึกษา #ส่วนพัฒนานักศึกษา