มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (MFU Learning Innovation Institute หรือ MLII) เมื่อวันอังคารที่ 6 กรกฎาคม 2564 ณ ห้องประดู่แดง อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย รศ.ดร.นันทนา คชเสนี รองอธิการบดีและรักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันฯ และผู้บริหารเข้าร่วมงาน โดยนอกจากพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนแล้ว อีกภารกิจที่สำคัญของสถาบันคือ MFU Academy มุ่งสู่การเรียนยุคดิจิทัล และการเรียนรู้ที่ไม่หยุดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียนหรือมหาวิทยาลัย ตอบโจทย์การเรียนรู้แบบผสมผสานในยุคออนไลน์
ชมอัลบั้มภาพบรรยากาศงานได้ที่ คลิก https://www.facebook.com/MFUTODAY/posts/932399310878797
สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หรือ MLII จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการศึกษาสมัยใหม่ การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ การส่งเสริมศักยภาพอาจารย์ให้มีความพร้อมในการเรียนการสอนที่ทันสมัย ตลอดจนการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมด้านการพัฒนาการเรียนการสอนอย่างครบวงจร
โดยมีพันธกิจหลัก 3 ด้าน คือ 1. คิด : คิดรูปแบบกับการศึกษา แนวทางการพัฒนาการศึกษารูปแบบใหม่ และการศึกษาวิจัยด้านนวัตกรรมการศึกษา 2. ผลิต : ผลิตพัฒนาระบบการเรียนรู้ นวัตกรรมการเรียนรู้ การจัดเตรียมจัดหาสิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน 3. ถ่ายทอด : ถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะ สมรรถนะที่จำเป็นต่อการส่งเสริมศักยภาพอาจารย์ ให้มีความพร้อมในการเรียนการสอนที่ทันสมัย และการสนับสนุนส่งเสริมทางเทคนิคต่างๆ
นอกจากนี้แล้ว MLII ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการพัฒนา Digital Education ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมขับเคลื่อนและตอบสนองต่อโลกการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเรียนรู้ อีกทั้งยังตอบสนองต่อแผนพัฒนามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงฉบับล่าสุดอีกด้วย
รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี กล่าวในงานนี้ว่า การใช้เวลาในการก่อตั้งสถาบันแห่งนี้ ถ้าเปรียบเป็นเมล็ดพันธุ์ก็ถือว่าได้ลงมือเพาะมาตั้งแต่ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ โดยที่ตอนนั้นยังมองไม่เห็นว่าต้นกล้าจะออกเป็นอะไร แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เกิดการจัดตั้งสถาบันแห่งนี้
“นับเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ที่เราเริ่มต้นด้วยจัดตั้งหน่วยงานเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนสมัยใหม่ จาก MLI มาสู่การจัดตั้งเป็นสถาบัน MLII คำว่า สถาบัน หรือ institute เป็นคำที่ใหญ่ ต้องมีองค์ประกอบที่ครบ ดิฉันอาจจะเป็นอธิการบดีที่โชคดีมากๆ คือมารับตำแหน่งในช่วงเวลาที่ทุกอย่าง time and space matching แล้วก็มาบรรจบ เกิดเป็นสถาบันที่เราอยากจะมี เหมือนที่มหาวิทยาลัยอื่นมี เหมือนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศมี”
“ความเข้าใจในความเป็นมานั้นสำคัญ แต่คนที่เป็นคนที่ร่วมทำงานกับสถาบันมีความเข้าใจอยู่แล้ว เพราะทำด้วยหัวใจ ทำตั้งแต่ยังมองไม่เห็นว่าต้นกล้าที่จะออกมาจะโตไหม จะเจริญเติบโตจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นหน่วยก้านของเมล็ดพันธุ์ สิ่งที่งอกมาในวันนี้ ดิฉันอยากจะบอกทุกคนว่ามีความภาคภูมิใจมากๆ เพราะมีคนมาช่วยกันรดน้ำ พรวนดิน ให้อาหาร จนเติบโตเป็นต้นกล้าที่โตเร็วมาก แค่ในเวลา 1 ปีที่โตได้ขนาดนี้ ถามว่าคนที่ภูมิใจและดีใจที่สุดก็ต้องเป็นดิฉัน เหมือนเป็นแม่ที่มีลูก ก็รอดูการเจริญเติบโตว่าลูกจะโตมาเป็นแบบไหน จะโตเร็วไหม จะวิ่งได้เลยหรือเปล่า”
“อยากจะบอกว่าวันนี้มีหลายๆ องค์ประกอบที่ช่วยให้เราโตเร็ว ทุกครั้งที่พูดในหลายๆ เวที เราต้องขอบคุณยุคโควิค ดิฉันเป็นอธิการบดียุค Covid-19 อย่างแท้จริง ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งมา อยากจะบอกให้ทุกคนภูมิใจว่าสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ คืองานที่เรียกว่า new สำหรับยุคของอธิการบดียุคโควิดจริงๆ และสร้างได้สำเร็จทันการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19”
“ก่อนหน้านี้ การที่บอกให้เราต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการสอน จากยุคเก่ามาสู่ยุคใหม่ อาจารย์ต่างๆ ก็จะไม่คุ้นชินและไม่ทราบว่าเหตุผลคืออะไร แต่กับอาจารย์หลายท่านที่ปรับเปลี่ยนด้วยตัวเองแล้ว โดยที่ยังไม่ต้องมีการสั่งการ นั่นคือความภาคภูมิใจที่สุดเลย อยากจะบอกว่าเราปรับตัวเองรับกับ Covid-19 ที่เป็นภาวะผลิกผัน ปรับตัวเอง ประกาศตัวเองว่าอยากจะเป็นสถาบันที่มีการจัดการศึกษาสมัยใหม่ ปรับตัวเองได้ทันรับกับสภาวะที่มันเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน การสั่งปิดมหาวิทยาลัยไม่ให้นักศึกษามาอยู่ในแคมปัส เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดของมหาวิทยาลัยและคณาจารย์ทุกคน เพราะเป็นสิ่งใหม่ที่เราต้องลงมือปรับเปลี่ยนและทำในทันที ทุกคนคงจะนึกถึงความรู้สึกนั้นได้ในปีที่แล้ว”
“สำหรับคนรุ่นใหม่ อาจจะรู้สึกว่าเวลาเกิดของใหม่ เกิดขึ้นได้เพราะมีเทคโนโลยี เทคโนโลยีช่วยให้เกิดการสรรค์สร้าง แต่คนรุ่นเดิมรู้ว่าก่อนจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า new ได้ ต้องฐานรากที่มั่นคงก่อน เพราะถ้างอกแล้วไม่โตก็ไม่มีประโยชน์”
“อยากจะขอพูดว่า เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่ม ก็คือของทุกสิ่งที่ทำนั้น ต้องทำจากมือของเราด้วยกันทุกคน แล้วสร้างขึ้นมาเอง ปรับปรุงเองได้ไหม ได้ค่ะ มันไม่ทันสมัยจะทำให้มันอัพเดทได้ไหม ได้ค่ะ แต่ถ้าสั่งคนอื่นทำให้ มันไม่เคยถูกใจเรา และมันปรับปรุงเองไม่ได้ ต้องจ้างทุกครั้ง คนสายไอทีจะทราบดีว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วแค่ไหน เราพูดกันวันนี้ ของที่ใช้วันนี้ก็เอาท์แล้ว กว่าจะสั่งซื้อสั่งจ้าง กว่าจะได้งบประมาณ ก็ไม่ทันสมัยแล้ว”
“สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกว่าภูมิใจมาก คือสถาบันแห่งนี้ทำกันด้วยมือ สร้างด้วยหัวใจ ใช้สมองของคนที่นี่ร่วมด้วยช่วยกัน สถาบันการศึกษาใหญ่ๆ ในประเทศไทย เขามีสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ หลายๆ ที่ใช้วิธีหาซื้อหาจ้าง เขาไม่สามารถพัฒนาให้มันไปต่อถึงจุดที่ตัวเองอยากจะไปให้ถึง เพราะคนทำงานที่จัดจ้างมาไม่ได้อยู่กับพวกคุณตลอดไป แค่สถาบันเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วเดินไปต่อด้วยตัวเองอย่างมั่นคงได้หรือเปล่า”
“ขอบคุณทุกคนด้วยหัวใจ ที่ทำให้วันนี้ความฝันของอธิการบดีเป็นจริง มีความสุขมากๆ สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจะสามารถสร้างตัวเอง เจริญเติบโตและงอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่ไปในวันข้างหน้าได้ อย่างไม่มีความน่าเป็นห่วงแล้ว”
“มหาวิทยาลัยตั้งใจที่จะก่อตั้ง MLII เพื่ออะไร คำว่าสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้นั้น มีภารกิจ 3 ด้าน ตามธีมของงานในวันนี้คือ Modernize Education, Innovate Ecosystem, Empower teaching ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่เราต้องทำให้สำเร็จ”
“ประการแรก คำว่า Modernize Education ทุกคนพูดกันเสมอถึงการศึกษาใหม่ อะไรคือสมัยใหม่ ถ้าคนเป็นครู ความรู้สึกของเรามันต้องแตกต่างจากของเดิมที่เราเคยใช้ ครูยุคใหม่ทำอย่างไร สิ่งที่เราต้องการให้มันมีความทันสมัย สิ่งที่ตอบโจทย์ อย่างเช่น ไม่สามารถมามหาวิทยาลัยได้แต่ก็ยังสามารถทำการเรียนการสอนและมีประสิทธิภาพด้วย เช่นเดียวกับที่เราประกาศนโยบาย Blended Learning หรือการเรียนรู้แบบผสมผสาน คือฐานของการเดินหน้าของการศึกษาสมัยใหม่ ถ้าจะทำได้ต้องใช้หลายๆ อย่าง ใช้ทั้งฝีมือ สมอง และเทคโนโลยีที่จะทำให้มันเกิดขึ้น”
“เราจะทำการศึกษาที่จะเรียกว่า non-degree ที่เราอยากให้นักศึกษาทุกคนที่ก้าวย่างเข้ามา อยากจะเรียนอะไรต้องได้เรียน เป็นคนสายวิทย์แต่อยากเรียนวิชาบางอย่างทางด้านกฎหมายได้ไหม เรียนวิชาบางอย่างที่เป็นทักษะอะไรก็ตามที่อยากจะเก็บความรู้หลากหลายด้าน ไม่ปิดกั้นอยู่ในชั้นเรียน เราจะทำระบบที่เรียกว่า non-degree แล้วเราคุยกันเรียบร้อยแล้วในเรื่อง credit banking เราทำเรื่องที่อยู่นอกระบบ ให้เข้ามาอยู่ในระบบได้อย่างชัดเจน”
“ประการที่สอง Innovate Ecosystem สถาบันการเรียนรู้นี้ไม่ใช่ร้านวางของหน้าร้าน แล้วใครจะใช้ก็เข้ามาหยิบใส่ตะกร้า เข้ามาสั่งซื้อ แต่สถาบันนวัตกรรมเรียนรู้ต้องการให้คนเข้ามีส่วนร่วมมา Innovate Ecosystem, together เราต้องทำด้วยกัน แล้วเราต้องสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศที่รองรับเรื่องของการเรียนรู้แบบ Digital ที่สมบูรณ์”
“ประการที่สาม Empower teaching ก็คือคนสอน ต้องมีเครื่องมือที่ดี มีเทคโนโลยี มี Mentor ที่สามารถบอกได้ว่าจะหาสื่อนี้ได้อย่างไร จะใช้ได้ไหม ถ้าไม่มีเทคโนโลยีนั้นสถาบันแห่งนี้ต้องเป็นผู้จัดเตรียม เพื่อที่จะรองรับ teacher ทุกคน ให้เป็นการสอนแบบ teacher 4.0 เพราะฉะนั้น 3 ประการนี้ที่เรากำลังพูดเพื่อให้เราทำภารกิจหลักที่อยากทำให้ได้คือ Lifelong learning ได้จริง”
“วันนี้เรานำผลงานที่เกิดขึ้นมาเห็นให้เป็นที่ประจักษ์ อยากจะบอกว่ามีความตั้งใจที่สูง มีความรู้สึกที่อยากถ่ายทอด วันนี้เราเปิดสถาบันด้วยหัวใจ เปิดด้วยความรู้สึก เปิดด้วยความตั้งใจที่อยากจะบอกว่าสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง MLII เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เปิดงานในวันนี้” อธิการบดี มฟล. กล่าว
.
ด้าน รศ.ดร. นันทนา คชเสนี รองอธิการบดี และรักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้กล่าวแนะนำ MFU Academy
“ผลงานที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ เป็นผลงานจากการร่วมกันของทีมงานหลายฝ่าย จนประกอบกันขึ้นเป็นสถาบันการเรียนรู้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หรือ MLII เป็นความร่วมมือของทุกคนที่สานฝันของท่านอธิการบดี และเราก็เชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะนำพามหาวิทยาลัยไปสู่การเรียนการสอนที่ทันสมัย ในบทบาทต่างๆ ทั้งโครงสร้าง ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการการเรียนการสอนแบบสมัยใหม่ เรานำคนรุ่นใหม่มาเจอกัน ที่มีแพชชั่นเหมือนกัน เราช่วยกันหา ช่วยกันทำ แล้วทำให้มันออกมาเป็นสิ่งที่วันนี้จะได้เห็น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้น และนอกเหนือจากว่าเราช่วยกันแบ่งปันประสบการณ์ อาจารย์ที่มีประสบการณ์ อาจารย์ที่เรียนมาโดยตรง แล้วมาช่วยกันถ่ายทอด ช่วยกันชี้แนะ ทำให้เกิดผลงานต่างๆ ที่ได้เห็นในวันนี้”
“จากนี้ สถาบันยังมุ่งหน้าต่อไป นอกจากเรื่องของ construe building นอกเหนือจากเรื่องการใช้ innovation ต่างๆ ใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาเรื่องการเรียนการสอน เรามุ่งเน้นจะทำ service ให้กับคนรุ่นใหม่ หรือว่าในรูปแบบของการ Reskill, Upskill ซึ่งอย่างที่ท่านอธิการบดีได้พูดถึงสถานการณ์ Covid-19 ว่ามันพลิกผันชีวิตของทุกคนให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ รูปแบบ เพราะฉะนั้น MFU Academy เป็นส่วนหนึ่งของสถาบัน เป็นความตั้งใจของสถาบันที่จะนำพาเอาความรู้ของมหาวิทยาลัยมาช่วยกันพัฒนาผู้เรียน ผู้เรียนของเราคือใคร นักศึกษาของเราด้วย อาจารย์เราด้วย ผู้เรียนภายนอกด้วย เราเอาความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยนำออกสู่ผู้เรียนในระดับต่างๆ สร้างให้เกิด lifelong learning ทั้ง Relearn สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้ออกสู่สังคมมากยิ่งขึ้น”
“ดังนั้น MFU Academy จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการนำเสนอการเรียนแบบ Non-degree รูปแบบใหม่ ในขณะนี้เรามีทั้งหมด 18 Micro learning courses ซึ่งเราอัพอยู่ในระบบของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ภายใต้ MLII เราเปิดให้เรียนฟรีในช่วงนี้ แล้วเราอยากจะโปรโมทให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ที่มีไอเดีย มีคอนเนคชั่น แล้วอยากจะทำอะไรให้สังคมภายนอก ให้มาร่วมกันพัฒนาคอร์สในรูปแบบต่างๆ ที่จะสนับสนุนต่อสังคม”
“นอกจากนั้นแล้ว อาจารย์อาจจะมาทำงานร่วมกันผลิตคอร์ส ซึ่งสามารถเป็นคอร์สในลักษณะของ credit banking ที่ท่านอธิการบดีได้กล่าวไปแล้ว เรียนเป็นคอร์สที่สะสมหน่วยกิจแล้วมาเทียบกับดีกรีในมหาวิทยาลัย เป็นส่วนหนึ่งของปริญญาในอนาคต ซึ่งได้นำเสนอในสภาวิชาการแล้ว.
“ทางมหาวิทยาลัยได้พยายามทำแพลตฟอร์ม ที่เป็น Digital platform ซึ่งสามารถตอบโจทย์การเรียน Anywhere, Anytime, Any device เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเรียนแล้วเราจะให้ MFU e-certificate ซึ่งการรับรองจากมหาวิทยาลัยนี้จะมีประโยชน์และจะนำไปใช้ในรูปแบบต่างๆ ได้ในอนาคต”
“การเรียนการสอนก็จะเห็นได้จากรายวิชา Chinese 1 และ Chinese 2 ที่เป็นการเรียนแบบ Interactive ที่ไม่ใช่คอร์สออนไลน์ในรูปแบบเดิมๆ ที่เปิดเข้าไปแล้วจะมีมีอาจารย์ยืนอยู่ แล้วเปิด Power point คุยไปเรื่อยๆ ซึ่งเราจะเห็นได้จากตัวอย่างมากมาย เมื่อเราเข้าไปดูแล้วอยากเรียนต่อแสดงว่าคอร์สนั้นน่าสนใจ แต่ถ้าเราดูแล้วไม่อยากเรียนต่อก็แสดงว่าเป็นสิ่งที่ไม่เราไม่ควรจะทำ เพราะเราอยากให้อาจารย์ได้สัมผัสถึงความรู้สึกของผู้เรียนจริงๆ สิ่งที่เราทำได้มีมากกว่านั้น เพราะฉะนั้น MFU Academy ก็จะเป็นสิ่งที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยออกสู่สังคมจริงๆ มหาวิทยาลัยอื่นทำได้ ทำไมจะทำไม่ได้ และเราจะทำให้ดีกว่า” รองอธิการบดี กล่าว
.
สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 ด้าน คือ ฝ่ายพัฒนการศึกษาสร้างสรรค์ (MLII Creative Education) ฝ่ายพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ (MLII Learning Innovation) ฝ่ายพัฒนาและถ่ายทอดการเรียนรู้ (MLII Learning Development & Transfer) และ ฝ่ายบริหารสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ (MLII Administration Office) โดยมีที่ทำการหลักอยู่ที่ อาคารพลเอก สำเภา ชูศรี (E4) ชั้น 3 สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ https://mlii.mfu.ac.th/ และแฟนเพจ https://www.facebook.com/mlii.mfu
.
ภายในงานนี้ นอกจากจะได้นำหลักสูตรและรายวิชาที่ได้ร่วมมือกับ MLII มานำเสนอแล้ว ยังมีการมอบรางวัลต่างๆ เป็นกำลังใจให้แก่อาจารย์ผู้เป็นแบบอย่างในการพัฒนาการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ได้แก่ อาจารย์โปรยชัย กล้าขยัน สำนักวิชาการจัดการ ได้รับรางวัล Powerful Teaching Award อาจารย์ พจ.รักษ์สุดา ทานิกุจิ สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ ได้รับรางวัล Alternative Assessment Award อาจารย์ ดร.ปภามญชุ์ ซีประเสริฐ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้รับรางวัล Technology-Enhanced Learning Award และ อาจารย์ ภูตะวัน โฮ สำนักวิชาการจัดการ ได้รับรางวัล Online Champion Course Award
.
